top of page

ถึงสักผิด แต่ชีวิตก็ยังมีทางออก

Modella Clinic มาแนะนำวิธีลบรอยสักเนียน ๆ เหมือนไม่เคยสักมาก่อน

สักผิดชีวิตมีทางออก Modella Clinic มาแนะนำวิธีลบรอยสักเนียน ๆ เหมือนไม่เคยสักมาก่อน

วันนี้พามาดูนวัตกรรมการลบรอยสักด้วย Pico Laser เลเซอร์ที่ดีที่สุดแห่งยุคของการลบรอยสัก





คุณรู้ไหม ทำไมรอยสักจึงติดผิวหนังได้นาน?

ลวดลายถาวรบนผิวหนัง

ทำไมรอยสักจึงติดผิวหนังได้นาน?


ผิวหนังส่วนบนของมนุษย์ แบ่งเป็นชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยผิวหนังชั้นนอกสุด คือ ผิวหนังที่ประกอบด้วยเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งสามารถหลุดออกไปเองตามธรรมชาติหรือการขัดถู สีและหมึกที่ติดบนผิวหนังชั้นนี้จึงอยู่ได้เป็นเวลาสั้น ๆ และค่อย ๆ หลุดพร้อมเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วชั้นหนังแท้อยู่ถัดลงมา มีต่อมเหงื่อ เส้นเลือด เส้นประสาทมาหล่อเลี้ยงมากมาย


กระบวนการสักเป็นการนำอนุภาคของสีหรือหมึก ใส่ หรือ ฝัง ในชั้นหนังแท้ โดยปัจจุบันใช้การแทงเข็มปลายแหลมติดสีหรือหมึกให้ทะลุหนังกำพร้าถึงชั้นหนังแท้ แต่ไม่ทะลุถึงชั้นไขมัน เพื่อใส่อนุภาคสีลงไป และเมื่อชักเข็มที่ใช้สักออกจะเหลือสีหรือหมึกติดตามแนวเข็มที่แทง


การใส่สีหรือหมึกลงในชั้นหนังแท้ด้วยวิธีแทงด้วยเข็มปลายแหลมจะกระตุ้นระบบป้องกันต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเกล็ดเลือดให้มารวมตัวที่ปากแผลเพื่อหยุดเลือด รวมทั้งกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายมารวมที่บริเวณแผลเพื่อกำจัดเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ


อย่างไรก็ตามสีและหมึกเป็นสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ เซลล์ภูมิคุ้มกันไม่สามารถกำจัดออกไปได้ จึงกักอนุภาคเหล่านี้ไว้ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Fibrous tissue) ในชั้นหนังแท้และปรากฎบนร่างกายอย่างถาวร

ในขณะที่สีและหมึกซึ่งติดตามแนวเข็มบนชั้นหนังกำพร้าจะค่อย ๆ หลุดออกไปพร้อมเซล์ผิวหนังที่ตายแล้ว นี่คือสาเหตุที่ว่า เหตุใดหลังจากสักไปไม่นานรอยสักจึงมีสีไม่สดและเข้มเหมือนเดิม

นอกจากนี้ หนังกำพร้าของเราถือว่ามีความโปร่งแสง แสงสามารถทะลุผ่านและมองเห็นสีหมึกในชั้นหนังแท้ได้ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปสีของรอยสักจากหนังแท้จะเคลื่อนตัวลึกลงทำให้สีรอยสักและความชัดเจนลดลงตามกาลเวลา





เมื่อเวลาผ่านไป รอยสักสุดรักอาจกายเป็นส่วนเกินทีต้องกำจัดออก

มาดูสาเหตุที่ทำไมเมื่อเวลาผ่านไป รอยสักสุดรักอาจกายเป็นส่วนเกินทีต้องกำจัดออก


การลบรอยสัก

เหตุผลของ การลบรอยสักส่วนใหญ่มีดังนี้

1. ผลต่ออาชีพ หลายบริษัทไม่ยอมรับเข้าทำงาน เนื่องจากค่านิยมที่ไม่ดีเกี่ยวกับรอยสัก หรือส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัท

2. มีผลต่อใจ ครอบครัว รายที่มีการหย่าร้างหรือมีคู่ใหม่ ไม่ต้องการเห็นรอยสักของคนรักเก่า

3. มีผลต่อร่างกาย เนื่องจากปฏิกิริยาจากรอยสัก ทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ เป็นเหตุผลอย่างหนึ่งในการขอลบรอยสัก





วิธีลบรอยสักในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท

วิธีลบรอยสัก

วิธีลบรอยสักในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1. รอยสักขนาดเล็ก

ปัจจุบันมีวิธีการต่าง ๆ มากมาย เช่น การผ่าตัด แต่โดยทั่วไปใช้กรดไนตริก (Nitric acid), กรดซัลฟูริก (Sulfuric acid), ซิงค์คลอไรด์ (Zinc Chloride), ผลึกด่างทับทิม(Potassium permanganate) หรือพลาสเตอร์ที่มีส่วนผสมของ cantharides (Spanish fly) ซึ่งกลไกการออกฤทธิ์จะทำให้เกิดปฏิกิริยาอักเสบอย่างรุนแรง และทำให้มีการกำจัดรอยสักเหล่านี้ออกมา วิธีการสมัยใหม่ในการลบรอยสักอาจใช้การศัลยกรรมตกแต่ง ถ้าเป็นรอยสักขนาดเล็กหรือเป็นเส้นตรง ทำได้ง่ายเพียงแค่ตัดและเย็บเท่านั้น หรือใช้วิธีการลบรอยสักด้วยความเย็น (Liquid nitrogen)


2. รอยสักขนาดใหญ่

อาจต้องใช้วิธีการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้


- เครื่องกรอไฟฟ้าหรือเครื่องขัดลอกผิว (Dermabrasion) อาจลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ก่อนทำให้พ่นด้วยเอธิลคลอไรด์ (Ethyl chloride) หรือใช้ไนโตรเจนเหลว โดยพยายามถูไถเครื่อง Dermabrasion นี้ให้มากที่สุด เพื่อขจัดสีออกมากที่สุด สีจะหลุดออกไปพร้อมกับสะเก็ดแห้งกรังตรงบริเวณที่ทำ dermabrasion แต่วิธีการนี้ต้องทำหลายครั้งกว่าจะขจัดสีได้ทั้งหมด ถ้าจะให้


- การทำซาลาเบรชั่น (Salabrasion) คือการใช้เกลือถูแรง ๆ ตรงตำแหน่งที่จะลบรอยสัก จนเกิดรอยถลอก และปิดตรงรอยถลอกด้วยผ้ากอซชุบพาราฟิน วิธีนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาขับสีได้โดยหลุด ออกไปพร้อมกับสะเก็ด การทำวิธีนี้อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง


- เลเซอร์ (Laser) ที่ใช้มีอาร์กอน (Argon laser), คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 laser), ฮีเลียมนีออน ทับทิม ดายเลเซอร์ (Dye laser), Q-switched และ PICO Laser วิธีนี้เป็นการลบรอยสักที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบวิธีการลบอื่น ๆ เลเซอร์เป็นมาตรฐานที่ใช้ลบรอยสักในปัจจุบัน ภายหลังการสักผงสี (Ink granule) จะฝังตัวอยู่ในหนังแท้โดยส่วนใหญ่มักกระจายตัวอยู่ใน เซลล์ไฟโบรบาสต์ (Fibroblast) มาโครฟาจ (Macrophage)และบางส่วนรวมตัวกันแล้วถูกห่อหุ้มอยู่ในผนังเนื้อเยื่อ


หลักการทำงานของเลเซอร์

พลังงานแสงจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เกิดปฏิกิริยาแรงกระแทกอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความร้อนสูงถึง 300C ภายในเซลล์ในชั้นหนังแท้ เกิดการแตกออกเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมแล้วเกิดเป็นฟองอากาศจำนวนมหาศาลขึ้นภายในผงสี ฟองอากาศเหล่านี้จะเกิดการขยายตัว และหดตัวอย่างรวดเร็วจนเห็นผิวข้างนอกเปลี่ยนแปลงเป็นสีขาว (Immediate whitening) และถูกกำจัดออกนอกผิวหนังได้ 3 ทาง คือ

1) ผ่านกระบวนการจับกินของเม็ดเลือดขาว (Phagocytosis) และขับออกทางระบบท่อน้ำเหลือง (Lymphatic)

2) ผ่านทางสะเก็ดและแผลที่หลุดลอกออกไป (Transepidermal elimination)

3) อนุภาคของผงสีที่เล็กลงจะทำให้มองเห็นสีของรอยสักไม่ชัดเจน





PICO Laser เลเซอร์ลบรอยสัก มีหลักการทำงานอย่างไร?

PICO Laser เลเซอร์ลบรอยสัก มีหลักการทำงานอย่างไร

นวัตกรรมลบรอยสักด้วย PICO Laser ส่งพลังงานเลเซอร์ที่ความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อ ล้านล้านวินาที สามารถเข้าถึงเม็ดสีที่ผิดปกติทั้งในผิวชั้นตื้น และผิวชั้นลึก จึงทำให้รอยสักซึ่งเป็นอะตอมของเม็ดสีที่เรียงตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นเป็นกระจุก เกิดการแตกตัวจนกลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุดมากกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น และกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ ทำให้เม็ดสีที่เกิดจากการสักจางลงในทันที โดยไม่ทำให้เกิดการสะสมความร้อนในบริเวณข้างเคียง เพราะแสงเลเซอร์จะเลือกจับเฉพาะรอยสัก จึงทำให้ผิวข้างเคียงถูกทำลายน้อยกว่า หรือเกิดความร้อนที่ผิวหนังน้อยนอกจากนี้ พลังงานแสงที่มีความถี่สูงมาก จนทำให้เกิดการเปลี่ยนสสารเป็นแรงดันเล็ก ๆ ในระดับนาโนกระจายทั่วผิวหนัง ทำให้เกิดการสร้างอิลาสติน และคอลลาเจนใหม่จำนวนมาก ช่วยให้ผิวมีความแน่น เรียบเนียน กระจ่างใส และริ้วรอยลดลงไปพร้อมกัน

ความรู้สึกขณะทำการรักษาเจ็บน้อยมาก เพราะมีการทายาชา ก่อนการทำ และมีผลข้างเคียงน้อยมาก จนแทบไม่มีเลย ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ ปลอดภัยและสามารถทำการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง ทำการลบรอยสักด้วย PICO Laser ควรทิ้งระยะเวลาห่าง แต่ละครั้งประมาณ 2-4 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็วในการรักษา





PICO Laser ลบรอยสักได้ทุกสีหรือไม่?

ความยาวคลื่นของเลเซอร์แต่ละชนิดจะเหมาะกับ สีที่แตกต่างกันออกไป โดย PICO Laser มีการรวบรวมหลากหลายความยาวคลื่นจึงสามารถใช้กำจัดทุกเม็ดสีได้ตามต้องการ

ความยาวคลื่น 532 nm ที่เหมาะกับการกำจัดรอยสักสี สีแดง ส้ม เหลือง

ความยาวคลื่น 755 nm เหมาะกับการกำจัดรอยสักสี เขียว ฟ้า ม่วง น้ำตาล ดำ

ความยาวคลื่น 1064 nm เหมาะกับการกำจัดรอยสักสีน้ำเงิน น้ำตาล ดำ ได้ดีที่สุด





ข้อดีและข้อเสียของ Pico Laser

ข้อดีและข้อเสียของ Pico Laser

ข้อดี

ใช้เวลาในการรักษารวดเร็ว เจ็บเล็กน้อย

ใช้พลังงานที่พอเหมาะ อาจมีบาดแผลในครั้งแรก ๆ แต่หายไว ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ผลข้างเคียงน้อย

ใช้ระยะเวลารักษาจำนวนครั้งน้อยกว่า ผลการรักษาดีกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์อื่น ๆ


ข้อเสีย

การ Pico laser อย่างต่อเนื่อง ซ้ำจุดเดิมเป็นเวลานาน โดยไม่ระวัง อาจทำให้อุณหภูมิของผิวหนังบริเวณนั้นสูงขึ้น อาจทำให้มีโอกาสเกิดด่างขาวหลังการทำเลเซอร์ได้





ผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์

ผลข้างเคียงจากเลเซอร์

อาจพบตุ่มพองน้ำ (Bulla), รอยด่างขาว (Hypopigmentation) เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยแต่มักจางหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์

อาจพบรอยคล้ำ (Hyperpigmentation) รอยแผลเป็น (Scar) และคีลอยด์ (Keloid) พบประมาณ 5% ของผู้ป่วย


ผู้ที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ และมีสีผิวคล้ำควรระวังเป็นพิเศษในการทำเลเซอร์






การเตรียมตัวก่อนลบรอยสักด้วย Pico laser

การเตรียมตัวก่อนลบรอยสักด้วย Pico laser

1. เว้นระยะห่างหลังจากการสัก อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้แผลผิวบริเวณที่สักหายสนิทก่อน

2. งดดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจส่งผลให้สภาพผิวไม่ปกติ เช่น อาการรอยจ้ำเลือด

3. งดทานยาหรือวิตามินต่าง ๆ ที่เร่งการละลายลิ่มเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น Aspirin, Fish Oil, Vitamin E, Primrose หรือ แปะก๊วย เป็นต้น

4. สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรแจ้งแก่เจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยในการรักษา





การดูแลตัวเอง หลังลบรอยสักด้วย Pico Laser

การดูแลหลังลบรอยสักด้วย Pico Laser

1. งดโดนน้ำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

2. อาจมีอาการคันบริเวณที่ทำเลเซอร์ เป็นอาการปกติ ห้ามแกะ หรือเกา สามารถใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการคันหรือ รับประทานยาแก้คันได้

3. อาจมีตุ่มพองน้ำเล็ก ๆ ขึ้น ซึ่งเป็นอาการปกติ ให้ประคบเย็นช่วยบ่อย ๆ หรือทาปิโตเลียม เจลลี่ บาง ๆ งดการเจาะถุงน้ำด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

4. ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาด โดยใช้ไม้พันสำลีเช็ดเบา ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น หลังจากนั้นซับบริเวณที่ลบรอยสักให้แห้ง

5. หากมีสะเก็ด เมื่อสะเก็ดหลุดสามารถทาครีมลดรอยแผลเป็นได้

6. หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง





ข้อห้ามต่างๆ ในการทำ PICO Laser

ข้อห้ามในการทำ PICO Laser

1. ผู้ที่มีความไวแสง

2. ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

3. ผู้ที่มีประวัติโรคลมชัก มีอาการเมื่อถูกกระตุ้นได้ด้วยแสง

4. ผู้ที่มีแผลหรือเริมในบริเวณที่ทำการรักษา

5. ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคทางระบบประสาท เนื้องอกมะเร็ง โรคภูมิแพ้ตัวเอง






ดู 83 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page